มอริอาร์ตี้ผู้รักชาติ

หลังจากเกิดคดีฆาตกรรมเด็กอย่างต่อเนื่อง มอริอาร์ตี้จึงเริ่มพยายามหาลักษณะร่วมในแต่ละคดีเพื่อนำมาวิเคราะห์ตัวตนและพฤติกรรมของฆาตกร

ในวัยเยาว์ มอริอาร์ตี้ใช้ความรู้ช่วยเหลือผู้อื่นจนเป็นที่รักของชาวเมืองลอนดอน แต่เขากลับไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเท่าที่ควรในคฤหาสน์ของครอบครัว

เคานต์มอริอาร์ตี้รับอุปการะเด็กกำพร้าสองคนเข้ามาอยู่ในครอบครัว แต่ภรรยากับลูกชายคนเล็กปฏิบัติกับทั้งคู่ด้วยท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ ทำให้อัลเบิร์ตรู้สึกขุ่นเคือง

ไม่นานหลังจากย้ายมาอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่จะสอนวิชาคณิตศาสตร์ มอริอาร์ตี้ได้รับคำเชิญจากไวเคานต์แห่งเบลฟอร์ให้ไปร่วมร่วมรับประทานมื้อค่ำด้วยกัน

เมื่อนักเรียนคนหนึ่งหายตัวไป ศาสตราจารย์มอริอาร์ตี้ค้นพบว่าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวชอบไปนั่งดื่มที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งและตกหลุมรักสาวเสิร์ฟที่นั่น

มอริอาร์ตี้เปิดเผยแผนการเกี่ยวกับ "โรงละครอาชญากรรม" โดยมีชาวเมืองลอนดอนเป็นผู้ชม ซึ่งฉากเปิดสำหรับองก์แรกคือเรือโดยสารชั้นหรู

หลังจากผ่านไปเจอเหตุการณ์สะเทือนขวัญ มอริอาร์ตี้ได้ช่วยคนร้ายกลบเกลื่อนหลักฐาน แต่ละครอาชญากรรมของเขายังดำเนินต่อไปพร้อมกับการแสดงบัลเลต์บนเรือสำราญ

หมอทหารที่เพิ่งกลับมาจากอัฟกานิสถานเดินทางมาที่บ้านเลขที่ 221บี ถนนเบเกอร์เพื่อหาที่พักราคาไม่แพง ก่อนจะได้พบกับเพื่อนร่วมห้องที่ช่างสังเกตสังกา

หลังหนีจากตำรวจมาได้ด้วยความช่วยเหลือจากสารวัตรเลสเตรด เชอร์ล็อคได้ขอให้วัตสันช่วยวางกับดักเพื่อล่อให้คนร้ายตัวจริงออกมา

หลังจนปัญญากับการไขปริศนาหาตัวการเบื้องหลังคดีฆาตกรรมเดรบเบอร์ เชอร์ล็อคจึงถามเลสเตรดว่ามีชนชั้นสูงคนใดที่เสียชีวิตอย่างผิดปกติอีกหรือไม่

เมื่อวัตสันถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมบนรถไฟ เชอร์ล็อคจึงต้องเร่งไขปริศนาก่อนที่จะถึงสถานีต่อไป ด้วยความสงสัย มอริอาร์ตี้จึงเข้ามาช่วยอีกแรง

ไมครอฟท์ โฮมส์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสั่งให้อัลเบิร์ตฆ่าผู้หญิงที่ขโมยเอกสารลับสุดยอดไป กษัตริย์แห่งโบฮีเมียแวะมาหาเชอร์ล็อค

ในงานเต้นรำสวมหน้ากาก บรรดาแขกที่มาร่วมงานต้องเล่นเกมไขปริศนาที่วางเดิมพันมหาศาล อัลเบิร์ตแพ้และต้องออกจากเกม จึงมีโอกาสพูดคุยกับไอรีน แอดเลอร์

เชอร์ล็อคปล่อยไอรีนไป แม้ว่าจะรู้ว่าเธอจะไปเจรจากับใคร ทางด้านวิลเลียมและพี่น้องก็ได้มุ่งหน้าไปที่จุดนัดพบ

วิลเลียมมอบหมายให้ทีมงานหน้าใหม่สี่คนไปเอาของบางอย่างจากตู้ฝากของธนาคาร แต่กลับมีโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นธนาคาร

คดีฆาตกรรมหฤโหดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในภาวะตึงเครียด วิลเลียมได้ข้อสรุปเรื่องแรงจูงใจของฆาตกร และฉวยโอกาสจากสถานการณ์เพื่อสนองเป้าหมายส่วนตัว

เลสเตรดเชื่อว่าหัวหน้าสารวัตรใส่ความผู้ต้องสงสัยในคดีแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ แพตเตอร์สัน เพื่อนร่วมงานจึงแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากเชอร์ล็อค

ในระหว่างที่วิลเลียมใช้เวลาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ผู้ดูแลบ้านก็เล่าให้ฟังว่ามีขุนนางยืมเงินไป แต่ไม่ยอมใช้คืน วิลเลียมจึงตัดสินใจไปหาขุนนางคนนั้น

ไวท์ลีย์ ดาวสภาที่ส่งเสริมเรื่องความเท่าเทียมต้องหลบเลี่ยงการลอบสังหาร แต่หลังจากนั้นผู้ต้องสงสัยในคดีก็กลับกลายเป็นศพในห้องขัง

เมื่อมีหลักฐานการทุจริตอยู่ในมือ ไวท์ลีย์จึงไปเจรจากับมิลเวอร์ตัน ขณะเดียวกันเฟร็ดก็เห็นว่ามีคนแอบงัดบ้านของไวท์ลีย์

วัตสันแนะนำคู่หมั้นคนใหม่ให้เชอร์ล็อคได้รู้จัก เมื่อเชอร์ล็อคบอกว่าเธออาจเก็บงำเรื่องบางอย่างไว้ในใจ เธอก็ให้เขาดูไข่มุกขนาดใหญ่หกเม็ด

หลังจากรู้ความลับที่แมรี่กลัวว่าจะถูกเปิดโปง เชอร์ล็อคก็ตัดสินใจย่องเบาเข้าบ้านติดทะเลของมิลเวอร์ตัน และขโมยหลักฐานในระหว่างที่เขาไม่อยู่

เจ้าแห่งอาชญากรรมเริ่มดำเนินการตามแผนการขั้นสุดท้ายด้วยการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ เติมเชื้อให้ผู้คนทั้งขุนนางและสามัญชนโกรธแค้น

อัลเบิร์ตและพรรคพวกจุดไฟทั่วเมืองตามแผนของวิลเลียม ในที่สุดวิลเลียมและเชอร์ล็อคก็เผชิญหน้ากันบนยอดสะพานหอคอย